วันอาทิตย์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2554

กล้อง 1 ตัว ตั๋ว 1 ใบ กับคนรู้ใจข้างสนามบอล

นับตั้งแต่ผมจบการศึกษาจากรั้วมหาวิทยาลัยศิลปากร ผมมีโอกาสได้เดินทางไปตามสถานที่ต่างๆ กับกลุ่มเพื่อนๆ ที่ทำงานด้วยกันหลายครั้ง ทำให้ผมมีโอกาสได้ซึมซับกับบรรยากาศระหว่างการเดินทางมากมาย ปกติแล้วเวลาผมเดินทางไปท่องเที่ยวในที่ต่างๆ ผมมักจะติดกล้องคู่ใจไปกับตัวเองเสมอ คนส่วนใหญ่มักเดินทางแล้วพกกล้องเพื่อไปถ่ายรูปตัวเอง โพสท์ท่าทางกับสถานที่ไปเยี่ยมเยือน ซึ่งได้เห็นจนชินตา แต่สำหรับผมแล้วขอแค่ได้ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศระหว่างทางการเดินทางเป็นที่ระลึกก็เพียงพอแล้ว การเดินทางของผมนั้นจุดหมายปลายทางมีหลายรูปแบบทั้งแบบธรรมชาติ แบบสถานที่สวย ๆ ซึ่งผมก็ไม่พลาดที่จะนำกล้องติดตัวไปเก็บบรรยากาศเสมอ  ถ้าจะพูดบรรยากาศผมประทับใจในการไปเที่ยวที่ต่างๆนั้น ต้องบอกว่าประทับใจทุกการเดินทางครับ แต่การเดินทางที่ผมรู้สึกว่ามันทำให้ผมรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ที่ไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้นั้นคือ การเดินทางไปที่สนามฟุตบอลที่มีการแข่งขันฟุตบอลทั้งระดับชาติ และระดับการแข่งขันในประเทศ  ต้องขอบอกก่อนว่าคนเขียนเป็นผู้ที่มีความชื่นชอบการชมกีฬาเป็นชีวิตจิตใจ แต่หาโอกาสมาดูที่สนามแข่งจริงนี้น้อยมาก ส่วนใหญ่จะดูจากการถ่ายทอดสดผ่านหน้าจอทีวี ในการเดินทางไปที่สนามกีฬานี้เช่นเคยคือต้องพกกล้องติดตัวไปเสมอ เมื่อมาถึงสนามสิ่งแรกที่ต้องทำคือเดินไปที่จุดจำหน่ายตั๋วของสนามพร้อมกับจัดไปตั๋วหนึ่งใบ ทำยังไงได้ก็มาคนเดียวคงต้องซื้อใบเดียวอยู่แล้ว  หลังจากนั้นผมก็ขอถ่ายรูปบรรยากาศข้างสนามและรอบๆตามเคย ภาพที่เห็นส่วนใหญ่คือภาพของคนรักต่างพากันมาดูฟุตบอลกันมากขึ้น เห็นแล้วรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก และที่ทำให้ผมยิ้มไปกับภาพที่เห็นเลยคือภาพของพ่อแม่ลูกจูงมือมาซื้อตั๋วที่จุดจำหน่ายตั๋ว เห็นแล้วมันทำให้ผมนึกถึงภาพที่ได้เห็นในการถ่ายทอดสดฟุตบอลต่างประเทศ  ที่จะเห็นเด็กตัวเล็กๆมาดูฟุตบอลอยู่ข้างสนาม มาถึงตอนนี้คนอ่านคงสงสัยว่าหัวข้อบทความ กล้อง 1 ตัว ตั๋ว 1 ใบ กับคนรู้ใจข้างสนามบอล มันมีที่มาและเกี่ยวข้องกับประสบการณ์การเดินทางของผมอย่างไร ต้องขออธิบายว่าในตอนแรกๆ ที่ผมเริ่มเดินทางไปดูบอลที่สนามฟุตบอลนั้นผมเดินทางไปเพียงลำพังคนเดียว สิ่งที่พกติดตัวนำไปด้วยเสมอคือกล้องถ่ายรูปคู่ใจและมาถึงที่สนามได้สิ่งที่ต้องทำคือการเดินไปซื้อตั๋ว 1 ใบ  หลายคนที่อ่านคงมีัคำถามว่าแล้วคนรู้ใจข้างสนามบอลของผมไปไหน ผมจะเล่าให้ฟังต่อไปจากนี้ คนรู้ใจข้างสนามบอลนี้ผมได้มาจากการที่เข้าไปนั่งชมเกมข้างสนามบอลสิ่งที่พบเห็นคือผู้คนมากมาย ต่างอายุต่างวัยชาย หญิงและเด็ก คนเหล่านี้ต่างมากับคนรู้ใจด้วยกันทั้งนั้น ทั้งแบบเพื่อนที่รู้ใจที่มากันเป็นกลุ่ม และแบบคู่รักที่มาเป็นคู่ หรือจะมากับครอบครัวที่รู้ใจ นี่แหละคือความหมายของคนรู้ใจข้างสนามบอลของผมคือการได้พบเจอผู้คนพาคนรู้ใจมาดูการแข่งขันฟุตบอลในสนาม มันทำให้ผมได้เห็นถึงมิตรภาพ ส่งผ่านจากรอยยิ้มของการพูดคุยกัน มันเป็นภาพที่น่าประทับใจครับ ยิ่งตอนเชียร์บอลขณะแข่ง ต้องขอเล่าว่าสุดยอดมากๆ ครับ คือกลุ่มแฟนบอลเหล่านี้ที่มาจากคนละที่คนละแห่ง  สามารถร้องเพลงเชียร์เพลงเดียวกันดังกระหึมสนาม แบบว่าผมอดขนลุกกับความสามัคคีและพลังของคนเหล่านี้ไม่ได้  เวลาผ่านไปสักพักผมก็สามารถร้องเพลงเชียร์ตามกลุ่มแฟนบอลได้ต้องบอกว่ามันได้อารมณ์ความสุข ความละมุนมากเลยครับ ขอยืมคำพูดของพี่คนหนึ่งมาเขียนนิดนึงครับ เวลาผ่านผมสังเกตุเห็นคือกลุ่มแฟนบอลเหล่านี้ มักจะพกกล้องติดตัวมากันด้วยเพื่อจะถ่ายภาพโพสท์ท่ากับแฟนบอลและสนามกันเป็นส่วนใหญ่ครับ ผมมองแล้วดูทุกคนมีความสุขที่ได้มาที่สนามบอลเหมือนๆกับผมนะ  ผมคิดว่าสนามบอลมันร้อนมากนะ แต่สิ่งที่ทำให้คนเหล่านี้ยิ้มแย้มกันแบบลืมความร้อนไปปลิดทิ้งคือ พลังแห่งมิตรภาพที่ส่งผ่านออกมาทางใบหน้าและรอยยิ้มที่แสนจะจริงใจ สำหรับการที่จะเล่าความประทับใจในสนามบอลถ่ายทอดออกมาจนได้หมดนั้นคงจะทำได้ยาก แต่ตอนนี้มีสิ่งที่ผมบอกได้คือยังมีรอยยิ้มและมิตรภาพและความประทับใจที่น่าอัศจรรย์ใจรอคุณพิสูจน์ที่สนามฟุตบอลใกล้บ้านคุณ จงอย่าลืมพาเพื่อน พาคนรัก ครอบครัว และคนที่คุณคิดว่าเป็นคนที่รู้ใจคุณ มาที่สนามบอลสักครั้ง และผมเชื่อมั่นว่าคุณจะมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น